ระยะต่างๆของโรคไตแบ่งเป็น 5 ระยะ ตามระดับความรุนแรง ดังต่อไปนี้
• ระยะที่ 1: พบมีการทำลายไตเกิดขึ้น โดยพบความผิดปกติจากการตรวจเลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ และ/หรือพยาธิสภาพของชิ้นเนื้อไต โดยที่อัตราการกรองของไตยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ กล่าวคือ มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มล.ต่อนาทีต่อพื้นที่ผิวกาย 1.73 ตร.ม.
• ระยะที่ 2: พบมีการทำลายไตร่วมกับเริ่มมีการลดลงของอัตราการกรองของไตเล็กน้อยคืออยู่ในช่วง 60-89 มล.ต่อนาทีต่อพื้นที่ผิวกาย 1.73 ตร.ม.
• ระยะที่ 3: มีการลดลงของอัตราการกรองของไตปานกลาง คืออยู่ในช่วง 30-59 มล.ต่อนาทีต่อพื้นที่ผิวกาย 1.73 ตร.ม.
• ระยะที่ 4: มีการลดลงของอัตราการกรองของไตรุนแรง คืออยู่ในช่วง 15-29 มล.ต่อนาทีต่อพื้นที่ผิวกาย 1.73 ตร.ม.
• ระยะที่ 5: มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (อัตราการกรองของไตน้อยกว่า 15 มล.ต่อนาทีต่อพื้นที่ผิวกาย 1.73 ตร.ม.)
สาเหตุโรคไต
1. สาเหตุของโรคไตเฉียบพลัน: ซึ่งเป็นโรคพบได้น้อย เช่น ไตขาดเลือดจากร่างกายเสียเลือดมาก ไตได้รับบาดเจ็บโดยตรง (เช่น จากอุบัติเหตุ) ภาวะขาดน้ำรุนแรง ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดบางชนิด ยาปฏิชีวนะบางชนิด สารทึบแสง/สีที่ฉีดในการวินิจฉัย โรคด้วย เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ MRI
2. สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคไตเรื้อรัง: มีได้หลากหลาย ที่พบบ่อยที่สุด คือ
• โรคเบาหวาน โรค
• ความดันโลหิตสูง
• โรคไขมันในเลือดสูง
• โรคอ้วน
• โรคหัวใจ
• โรคนิ่วในไตไตติดเชื้อแบคทีเรีย
• โรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเอง
• กินอาหารเค็ม เพราะเกลือโซเดียมในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
• โรคมะเร็ง โดยมักเกิดจากโรคมะเร็งชนิดต่างๆแพร่กระจายเข้าต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง แล้วต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้มีขนาดโตจนกดเบียดทับท่อไต ส่งผลให้เกิดมีการเพิ่มความดันในไต ไตบวม และเซลล์ไตเสียการทำงานในที่สุด
• โรคทางพันธุกรรม เช่น มีถุงน้ำมากมายในไตทั้งสองข้าง (Polycystic kidney disease) จนส่งผลให้ไตมีการทำงานได้ลดต่ำลง จนกลายเป็นโรคไตเรื้อรังในที่สุ
การตรวจวินิจฉัยโรคไต
การตรวจร่างกาย การตรวจปัสสาวะ และการตรวจเลือด ดูการทำงานของไต (เช่น สาร Creatinine ย่อว่า Cr, Blood urea nitrogen ย่อว่า BUN, และ Glomerular filtration rate ย่อว่า GFR ) และของเกลือแร่ต่างๆ (เช่น Sodium, Potassium, Calcium, และ Phosphorus) และอาจมีการตรวจต่างๆเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นกับ อาการผิดปกติของผู้ป่วย สิ่งผิด ปกติที่แพทย์ตรวจพบ และดุลพินิจของแพทย์ เช่น การตรวจภาพไตด้วย อัลตราซาวด์ เอกซ เรย์คอมพิวเตอร์ หรือ เอมอาร์ไอ และการตัดชิ้นเนื้อจากไตเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
• Urea Nitrogen เป็นสารปลายทางของการใช้โปรตีนของร่างกาย และสารนี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นสาร Urea ที่ร่างกายกำจัดทิ้งออกทางไต/ทางปัสสาวะ ดังนั้น Urea Nitrogenในเลือด(BUN)จะสูงขึ้นผิดปกติถ้าไตทำงานไม่ได้ตามปกติ ทางการแพทย์จึงใช้การตรวจเลือดดูค่าบียูเอ็น ที่เรียกว่า BUN test เพื่อเป็นการตรวจคัดกรองโรคไต/คัดกรองการทำงานของไต เพราะการตรวจนี้เป็นการตรวจที่ง่าย
ค่าปกติของ BUN คือ 7- 20 มิลลิกรัม/เดซิลิตร(mg/dL) หรือ 2.5-7.1 มิลลิโมล/ลิตร(mmol/L)
BUN to Creatinine ratio(BUN:Creatinine ratio) คือ อัตราส่วนระหว่างค่า BUN และค่าCreatinine(ย่อว่า Cr)ในเลือด ซึ่งสารทั้ง2ตัวคือ สารที่ใช้บอกการทำงานของไต แต่ BUNจะถูกไตดูดกลับจากปัสสาวะเข้าสู่กระแสเลือดได้ ค่านี้จึงเปลี่ยนสูงขึ้นหรือต่ำลงได้จากการทำงานของตัวเนื้อเยื่อไต แต่ไตจะไม่สามารถดูดกลับ Cr จากปัสสาวะได้ ดังนั้น อัตราส่วนของ BUN:Cr จึงช่วยคัดกรองได้ว่า อาการโรคที่เกิดขึ้น เกิดจากการเสียหายของเนื้อเยื่อไต/Intrarenal factor (เช่น ไตอักเสบ) หรือเกิดจากปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้ไตทำงานผิดปกติ/Pre renal factor(เช่น ภาวะขาดน้ำ, ภาวะไตขาดเลือด เช่นจาก ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือจากความดันโลหิตต่ำ) โดย BUN:Cr ratio ปกติคือ 10-20:1, ถ้ามากกว่า 20:1 พยาธิสภาพจะเป็นPrerenal factor, ถ้าน้อยกว่า 10:1 พยาธิสภาพจะเป็นที่ไตเอง
• Creatinine ย่อว่า Cr เป็นสารปลายทางที่ได้จากการสลายของสาร Creatine phosphateที่เป็นสารเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานในการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งสาร Cr จะถูกกำจัดออกจากร่างกายทางปัสสาวะโดยการทำงานของไต ดังนั้นการทราบค่าสารนี้ในเลือดหรือในบางครั้งในปัสสาวะจึงใช้เป็นตัวบอกประสิทธิภาพในการทำงานของไต
ค่าปกติของ Cr ในเลือดคือ 0.5 - 1.0 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (mg/dL) สำหรับผู้หญิง และ 0.7 - 1.2 มิลลิกรัม/เดซิลิตร สำหรับผู้ชาย ซึ่งในผู้ชายค่า Cr จะสูงกว่าในผู้หญิงเนื่องจากผู้ชายมีมวลกล้ามเนื้อที่เป็นต้นกำเนิดของสาร Creatine phosphate มากกว่า
ค่า Cr ในเลือดที่สูงมากกว่าปกติ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น ภาวะขาดน้ำ โรคไต
โรคกล้ามเนื้อ โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรคความดันโลหิตสูง
กรณีค่า Cr ที่ต่ำกว่าปกติ อาจมีสาเหตุจากภาวะทุโภชนาที่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง/กล้ามเนื้อฝ่อลีบ หรือจากโรคกล้ามเนื้อ หรือโรคทางระบบประสาทที่มีผลให้มวลกล้ามเนื้อฝ่อลีบลง
• GFR อัตราการกรองของไต(Glomerular filtration rate ย่อว่า จีเอฟอาร์/GFR) หรือ หรืออีกชื่อคือ Estimated GFR ย่อว่า eGFR คือ ตัวบอกประสิทธิภาพการทำงานของไต/อัตราการกรองของเสียของไต ที่แม่นยำ