ผู้เขียน หัวข้อ: รวบ “แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถ” แล้วเชิดหนี  (อ่าน 5202 ครั้ง)

ออฟไลน์ อู่สีคาร์ไบร์ท

  • Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 324


ศูนย์สืบสวน บชน.จับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักรถ เผยพฤติการณ์แสบ หาเหยื่อที่โพสต์ขายดาวน์รถตามเว็บไซต์ ก่อนออกอุบายขอซื้อดาวน์แล้วเชิดรถหนี มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่าร้อยราย คาดนำรถที่ขโมยไปขายต่อในบ่อน
       
       วันนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ กก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมงคล หรือโอ๊ต ศิรินิยม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/8 หมู่ 3 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 538/2551 ลงวันที่ 16 มิ.ย.51 ในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้อุบาย พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ถน-3069 กทม. โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
       
       พล.ต.ต.สุเมธเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย โดยเฉพาะในพื้นที่ สน.หลักสอง และปริมณฑล เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าเคยโพสต์ข้อความขายดาวน์รถยนต์ในเว็บไซต์ www.taladrod.com จากนั้นนายมงคลก็ได้โทรศัพท์มาขอซื้อเพื่อนำไปผ่อนต่อกับไฟแนนซ์ เมื่อติดต่อขอดูรถและรับเงินค่าขายดาวน์แล้วก็จะถูกฉ้อโกงและเชิดรถหลบหนีไป โดยวิธีการหลอกลวงผู้เสียหายนั้นมีการทำเป็นขบวนการ หาสถานที่และตัวละครเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทำให้เหยื่อหลงกลจนเกิดความเสียหายจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่นายทหารที่ยังถูกหลอกจนเกือบสูญรถทั้งคัน และต้องตกเป็นหนี้ชำระค่าไฟแนนซ์โดยไม่มีรถให้ใช้
       
       พล.ต.ต.สุเมธกล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการของกลุ่มคนร้ายนั้นคือ นายมงคล จะสืบหาข้อมูลของผู้เสียหายที่ต้องการขายดาวน์รถในเว็บไซต์ดังกล่าว ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย แล้วอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของเต็นท์รถใน จ.ภูเก็ต มีความสนใจอยากจะซื้อดาวน์รถไปผ่อนต่อ จึงขอให้ผู้เสียหายขับรถไปให้ลูกน้องในแก๊งเดียวกันดูสภาพที่ศูนย์รถยนต์นิสสัน จ.นนทบุรี โดยตัวเองจะเป็นผู้มอบอำนาจให้ลูกน้องดำเนินการแทนทั้งหมด เมื่อตกลงค่าใช้จ่ายกันเรียบร้อยแล้วก็ทำเอกสารซื้อขายกันโดยใช้ชื่อของบุคคลอื่นที่นายมงคลเคยหลอกลวงมาแล้วเป็นผู้รับซื้อแทน จากนั้นก็จะเชิดรถหลบหนีไป กว่าผู้เสียหายจะรู้ตัวก็ถูกไฟแนนซ์โทร.ติดตามค่างวดซึ่งเป็นเงินมูลค่าสูง
       
       พล.ต.ต.สุเมธกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคล และพรรคพวกกว่า 60 ราย เช่นในท้องที่นครบาล สน.หลักสอง 15 ราย จ.ภูเก็ต 50 ราย จ.นครราชสีมา 2 ราย จ.สระบุรี 3 ราย นอกจากนี้ยังมีที่ จ.ร้อยเอ็ด และท้องที่อื่นๆ ซึ่งกำลังสืบหาตัวผู้เสียหายอยู่ ทั้งนี้ จากการสอบสวนนายมงคลทราบเพียงว่าเคยถูกจับในคดีลักษณะเดียวกันนี้ที่ จ.ภูเก็ต มาแล้วเมื่อปี 2551 แต่ก็สามารถตกลงเคลียร์กับผู้เสียหายได้ จนกลับมาวางแผนหลอกลวงประชาชนได้อีก
       
       ด้าน น.ส.นุสรา ยืนยงวิริยะชัย อายุ 34 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยดาวน์รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ปธ 976 กทม.ให้น้องชายใช้ แต่พอผ่อนกับไฟแนนซ์ไปได้ประมาณ 1 ปี รู้สึกว่าเป็นภาระส่งต่อไม่ไหว จึงโพสต์ข้อความขายดาวน์รถคันดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ www.taladrod.com หลังจากนั้นไม่นาน นายมงคลก็โทรศัพท์ติดต่อมาหาให้ตนขับรถไปตรวจสภาพที่ศูนย์นิสสัน จ.นนทบุรี
       
       น.ส.นุสรากล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงก็พบนายเป้า พนักงานขายรถที่ศูนย์นิสสัน จ.นนทบุรี เป็นผู้ตรวจดูสภาพ โดยระหว่างนั้นก็มีพรรคพวกซึ่งคาดว่านายมงคลคงจ้างมา เข้าเจรจาทำทีดูรถและแกล้งโทรศัพท์ติดต่อไปที่ไฟแนนซ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ตนจึงหลงเชื่อขายดาวน์รถไปจำนวน 15,000 บาท พอรับเงินแล้วก็ไม่สามารถติดต่อกับนายมงคลได้อีกเลย กระทั่งทางไฟแนนซ์ติดต่อมาทวงค่างวดจึงรู้ตัวว่าโดนหลอก
       
       ขณะที่ ส.อ.สมโภช ปรีดี ทหารสังกัดพลเสนารักษ์ รพ.พระมงกุฎฯ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของรถของกลางที่ตำรวจยึดมาได้ โดยก่อนหน้านี้ตนเคยค้างค่างวดกับไฟแนนซ์ไว้ประมาณ 3 เดือน จึงโพสต์ข้อความขายดาวน์รถคันดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ www.taladrod.com จากนั้น นายมงคล ก็โทรศัพท์ติดต่อมาหาก่อนส่งคนมาดูสภาพรถถึงที่บ้านพักในกรมทหาร เมื่อตกลงขายดาวน์ในราคา 42,000 บาท นายมงคลก็พยายามโทรศัพท์ให้ตนขับรถไปให้พนักงานดูที่ศูนย์นิสสัน จ.นนทบุรี เช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่น แต่ตนบอกว่าระยะทางไกลเกินไปจึงนัดส่งรถกันที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส แคราย จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่านายมงคลถูกจับกุมได้พร้อมรถตนซึ่งกำลังค้างชำระกับไฟแนนซ์อีกจำนวน 2 งวด
       
       ด้าน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่านายมงคลและพรรคพวกที่เหลือน่าจะนำรถของกลางที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปขายหรือจำนำตามบ่อน โดยแนบเอกสารของเจ้าของรถพร้อมชุดหนังสือสัญญาโอนลอยไปด้วยเลย ทำให้สามารถตั้งราคาขายไว้ได้สูง เพราะไม่ต้องดำเนินการผ่านไฟแนนซ์ ซึ่งหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลเพื่อตามหาของกลางและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
 
ที่มา http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115031
ติดแก๊สมั่นใจ www.powergas.net | สีรถสวยถูกใจ www.carsbright.com
บริหารงานโดยช่างหน่อย ช่างตู๋ ช่างเล็ก น้องนุช และทีมงาน